สมัคร เน็ต ดี เเ ท ค 7 วัน

สมัคร เน็ต ดี เเ ท ค 7 วัน

• JKHlGUug8c
• 2024-06-17 10:05:36

สมัคร เน็ต ดี เเ ท ค 7 วัน

บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC ระบุว่า ตามที่บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ วินด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด IWIND ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ IFEC ที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานลม ได้เข้าลงนามบันทึกข้อตกลงการซื้อหุ้นของโรงไฟฟ้าพลังงานลม (SAMDAL WIND FARM) ขนาดกำลังการผลิต 33 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ ณ เกาะเจจู ประเทศเกาหลีใต้ ร่วมกับ บริษัท ฮันชิน เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (Hanshin Energy Corporation) ผู้ดำเนินการบริหารโรงไฟฟ้าหลายแห่งในประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2558

บัดนี้ เสร็จสิ้นการดำเนินกระบวนการพิจารณาในศาลชั้นต้นแล้ว โดยเมื่อวันที่ 28 พ.ย.2562 เมื่อเวลา 09.00 น. ศาลชั้นต้นได้พิพากษาให้จำเลยทั้งเก้าร่วมกันชำระเงิน จำนวน 60,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตาร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงินดังกล่าวนับตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย.2559 เป็นต้นไป และร่วมกันชำระเงิน จำนวน 60,000,000 บาท นับตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย.2559 เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้จำเลยทั้งเก้า ร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 90,000 บาท เฉพาะค่าขึ้นศาลให้ใช้แทนเท่าทุนทรัพย์ที่โจกท์ชนะคดี คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก

บริษัทไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนลก่อตั้งในปี 2521 โดย Mr. William Ellwood Heinecke ณ สิ้นปี 2557 Mr. Heinecke และกลุ่มเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทในสัดส่วนรวม 34% บริษัทดำเนินธุรกิจหลัก 3 ประเภท ได้แก่ 1) ธุรกิจโรงแรมและพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย 2) ธุรกิจอาหารบริการด่วน และ 3) ธุรกิจจัดจำหน่ายและรับจ้างผลิตสินค้า ในปี 2557 รายได้หลักของบริษัทมาจากธุรกิจร้านอาหารและธุรกิจโรงแรมคิดเป็นสัดส่วน 41% และ 35% ของรายได้รวมตามลำดับ ในขณะที่ธุรกิจจัดจำหน่ายและธุรกิจพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสร้างรายได้คิดเป็น 10% และ 7% ของรายได้รวมตามลำดับ

บริษัทไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนลก่อตั้งในปี 2521 โดย Mr. William Ellwood Heinecke ณ สิ้นปี 2557 Mr. Heinecke และกลุ่มเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทในสัดส่วนรวม 34% บริษัทดำเนินธุรกิจหลัก 3 ประเภท ได้แก่ 1) ธุรกิจโรงแรมและพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย 2) ธุรกิจอาหารบริการด่วน และ 3) ธุรกิจจัดจำหน่ายและรับจ้างผลิตสินค้า ในปี 2557 รายได้หลักของบริษัทมาจากธุรกิจร้านอาหารและธุรกิจโรงแรมคิดเป็นสัดส่วน 41% และ 35% ของรายได้รวมตามลำดับ ในขณะที่ธุรกิจจัดจำหน่ายและธุรกิจพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสร้างรายได้คิดเป็น 10% และ 7% ของรายได้รวมตามลำดับ