mascara ดี

mascara ดี

• RKkD7qPAmJ
• 2024-05-20 07:46:41

mascara ดี

KGI forecasted TOP to post 2Q20 earnings of Bt4.0bn (+603% YoY, improving QoQ from net loss of Bt13.8bn), benefiting from a significantly better refinery contribution. KGI expected huge net stock gains (including reversion in NRV loss) at Bt3.4bn for the quarter, up YoY and QoQ from the net gains of Bt64mn in 2Q19 and the net loss of Bt14.3bn in 1Q20 after Dubai crude jumped from US$34/bbl in March to US$41/bbl in June. Moreover, TOP s base GRM is expected to soar QoQ to US$2.1/bbl, from only US$0.1/bbl in 1Q20.

โดยบริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินงานเพื่อลดต้นทุนในส่วนต่าง ๆ ลง  และคาดว่าในปีนี้บริษัทฯ จะลดค่าใช้จ่ายในด้าน SG A (ค่าใช้จ่ายในการขาย และค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ) ได้เป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ในขณะที่ส่วนธุรกิจพลังงานทดแทนที่ได้ลงทุนไปในหลายปีที่ผ่านมา อย่างธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มินบู ประเทศพม่า, โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บางภาษี และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ วี.โอ.เน็ต รวมถึงธุรกิจติดตั้งแผงโซลาร์รูฟท็อปที่เริ่มดำเนินการเมื่อปีก่อน ยังคงเติบโตได้ตามแผนโดยไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19

ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ในช่วงไตรมาส 2/62 แม้มาตรการ LTV จะเริ่มบังคับใช้แต่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมตลาดเพียงเล็กน้อย ขณะที่ความต้องการที่อยู่อาศัยยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับภาพรวมเศรษฐกิจยังมีแรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยวรวมทั้งการผลักดันการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม รวมถึงในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ภาคเอกชนรายใหญ่ต่างมีความมั่นใจในการช่วยกันขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่และมอบแคมเปญการตลาดสู่กลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง สามารถสร้างความมั่นใจให้กับอุตสาหกรรมได้เป็นอย่างดี นายอุทัย กล่าว

โดยบริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินงานเพื่อลดต้นทุนในส่วนต่าง ๆ ลง  และคาดว่าในปีนี้บริษัทฯ จะลดค่าใช้จ่ายในด้าน SG A (ค่าใช้จ่ายในการขาย และค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ) ได้เป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ในขณะที่ส่วนธุรกิจพลังงานทดแทนที่ได้ลงทุนไปในหลายปีที่ผ่านมา อย่างธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มินบู ประเทศพม่า, โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บางภาษี และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ วี.โอ.เน็ต รวมถึงธุรกิจติดตั้งแผงโซลาร์รูฟท็อปที่เริ่มดำเนินการเมื่อปีก่อน ยังคงเติบโตได้ตามแผนโดยไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19

ขณะที่คาดว่ารายได้ทั้งปี 61 จะลดลงจากปีก่อนที่ทำได้ 8.89 พันล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้ขายธุรกิจบริษัท บางกอกสปริงอินดัสเตรียล จำกัด (BSK) ให้กับบริษัทร่วมทุน Mubea Somboon Automotive ที่ถือหุ้นอยู่ 50% ทำให้ยอดรับรู้รายได้ลดลงราว 1.4 พันล้านบาท และเปลี่ยนเป็นการรับรู้ส่วนแบ่งกำไร ดังนั้น คาดว่าบริษัทจะสามารถทำกำไรสุทธิได้ดีขึ้น ประกอบกับภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ปีนี้น่าจะเติบโตได้ราว 7-8% โดยมียอดขายรถยนต์ในประเทศรวม 2.1 ล้านคัน โดยปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของบริษัทมาจากธุรกิจยานยนต์ 81-82% และธุรกิจจักรกลการเกษตร 18%